วันที่10 มิ.ย. 63 เวลา 12.00 น. พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง จตร. ปฏิบัติราชการ ภ.6, พล.ต.ต.กรณ์ณพัชญ์ กิตติพิบูลย์ รอง จตร. ปฏิบัติราชการ ภ.6, พล.ต.ต.กานตพงษ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภ.6 ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา กรณีปลอมเฟสบุ๊ค หลอกสนทนากับเหยื่อ เพื่อหลอกให้โอนเงิน ขณะนี้มี 4 คดี
1.สภ.วังทรายพูน จ.พิจิตร
2. สน.ยานนาวา
3.สภ.เมืองอุดรธานี
4.สภ.สิเกา จ.ตรัง


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2563 ชุดปฏิบัติการสืบสวนภาค 6 ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเกิดเหตุคนร้ายปลอม facebook และหลอกสนทนากับเหยื่อ โดยเหยื่อหลงเชื่อแจ้งเลขบัญชี-บัตรประชาชนและรหัส ให้ทราบโดยเข้าใจว่าเป็นญาติ ปรากฏเมื่อคนร้ายได้ข้อมูลเหยื่อ ก็นำไปเข้าระบบอินเตอร์เน็ทแบงค์กิ้ง โอนเงินออกจากบัญชีเหยื่อจนหมดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว


พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของกองบังคับการสืบสวนฯ ตำรวจภูธรภาค 6 ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ และสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด จนกระทั่งวันที่ 10 มิ.ย.2563 สามารถสืบสวนติดตามจับกุม น.ส.อรนันท์ สิงหาสาร หรือฉายา "อ้วน แม่เปิน" อายุ 21 ปี (หัวหน้าแกงค์) พร้อมกับพวก อีกจำนวน 4 คน ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อเหตุคดีนี้


พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้บอกว่าพฤติการณ์ กลุ่มคนร้ายจะปลอม facebook ของบุคคลที่เปิดสาธารณะเก็บเอาไว้เป็นข้อมูลจำนวนหนึ่ง จากนั้นจะแจกจ่ายให้กับพรรคพวกในเครือข่ายโดยตกลงกันแบ่งเงินที่ได้จากการหลอกเหยื่อคนละครึ่ง เมื่อคนในเครือข่ายสามารถใช้ facebook ติดต่อเหยื่อได้และเหยื่อหลงเชื่อจะออกอุบายขอไลน์ไอดีเพื่อใช้ในการสนทนา จนกระทั่งเหยื่อเชื่อว่าบุคคลที่สนทนาในไลน์คือญาติหรือคนรู้จักจริงๆ จะใช้อุบายจะโอนเงิน แต่ไม่มีบัญชีขอหน้าสมุดบัญชีธนาคารของเหยื่อ บัตรประชาชน ของเหยื่อ จนกระทั่ง รหัสทำอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง เมื่อได้ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำรายการบัญชีในอินเตอร์เน็ทครบก็จะดำเนินการ โอนเงินจากบัญชีเหยื่อไปสู่ บัญชีกลุ่มที่ขายบัญชีให้ แล้วจึงทำการถอนเงินสดออกมาทันที โดยจากการตรวจสอบพบก่อเหตุมาจำนวนหลายคดี ทั้งที่มีการแจ้งความและยังไม่ได้แจ้งความโดยเมื่อจนมุมจริงๆ บางคดีคนร้ายจะให้วิธีเจรจาขอชดใช้เงินให้ผู้เสียหายยอมถอนแจ้งความแล้วกลับมาก่อเหตุใหม่ หลายท้องที่ เท่าที่พบตอนนี้ มี 4 คดี ในพื้นที่ สภ.วังทรายพูน จ.พิจิตร สน.ยานนาวา กทม. สภ.เมืองอุดรธานี สภ.สิเกา จ.ตรัง


ผู้เสียหาย ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมามี facebook ของญาติซึ่งอยู่ประเทศนอร์เวย์แอดมาขอเป็นเพื่อนต้นจึงรับเพื่อนไปจากนั้นมิจฉาชีพคนดังกล่าวได้ทักแชทมาพูดถึงมิจฉาชีพคนที่ 2 ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นหลานต้องการขอ ID LINE ตนก็ไม่ได้เอะใจจึงให้ ID LINE ไปแล้วสักครู่ก็มีคนแอดไลน์มาซึ่งก็พบว่ารูปprofileเป็นหลานสาวของตนจริงๆ จากนั้นได้มีการพูดคุยว่าตนเองที่ทำงานอยู่ต่างประเทศกำลังจะเดินทางกลับอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า ตอนนี้กำลังเดือดร้อนเนื่องจากไปทำงานแล้วได้เงินไทยแต่ไม่สามารถส่งเงินกลับบ้านหรือเอาเข้าบัญชีตนเองได้เพราะภาษีสูง จึงต้องการขอฝากเงินในบัญชีของผู้เสียหายโดยจะโอนครั้งละ 20,000 - 40,000 บาท และเมื่อเดินทางกลับมาไทยถึงจะมารับเงิน
ผู้เสียหายบอกต่ออีกว่า ด้วยความที่เป็นญาติและตนก็เห็นใจจึงทำตามคำต้องการของมิจฉาชีพที่อ้างตัวว่าเป็นหลาน คือการขอบัญชี ขอบัตรประชาชน ขอเบอร์โทร โดยอ้างว่าจำเป็นต้องใช้ เนื่องจากนายจ้างต้องการยืนยันอ้างอิงว่าเป็นญาติที่มีความประสงค์จะฝากเงินไว้ในบัญชี


จากนั้นเมื่อตนส่งเอกสารครบหมดทุกอย่างประมาณ 1 ชั่วโมงเช้าเช็คเงินก็ ปรากฏว่าเงินในบัญชีของตนหายไปทั้งหมดหลักล้านบาทจึงรีบโทรหา call center ของธนาคารก็ปรากฏว่าทำอะไรไม่ทันแล้วเพราะว่าเงินถูกถอนออกไปหมดแล้วจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว
น.ส.อรนันท์ สิงหาสาร หรือฉายา "อ้วน แม่เปิน" หัวหน้าแกงค์ กล่าวว่า ตนเองไม่มีอาชีพอะไร ว่างก็เลยเรียนวิชาปลอมเฟสบุ้คคนอื่นจากเพื่อนอีกคน โดยใช้โทรศัพท์มือถือเพียงอันเดียว โดยเริ่มก่อคดีมาเกือบปี มีหมายจับ 4 แห่ง ซึ่งในการปลอมเฟสบุ้คแต่ละครั้ง ก็แบ่งกันหารูปprofile แล้วสุ่มเข้าไปติดต่อกับญาติของเหยื่อ จากนั้นก็จะทำทีพูดคุยก่อน จนเหยื่อหลงเชื่อ แล้ว หลอกให้โอนเงิน บางรายได้เงินมา 40,000-50,000 บาท แต่เหยื่อล่าสุด ได้เงินกว่า 1 ล้านบาท โดย เงินจำนวนหนึ่งเอาไปใช้หนี้ จากนั้นก็แบ่งให้กับเพื่อนร่วมแก๊ง แต่ก็ถูกจับได้ในที่สุด


สำหรับผู้ที่สงสัยว่าเคยตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งประชาสัมพันธ์ หรือประสานให้ข้อมูลที่ พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภ.6 0818326555 ในการแถลงข่าวฯ ได้ปฏิบัติตามแนวทาง พรก.ฉุกเฉิน โควิด-19 โดยใช้ social distancing เว้นระยะห่าง และใส่หน้ากากอนามัย