สืบเนื่อง พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สส.ภ.6 ได้มีคำสั่งการให้ พ.ต.ท.เจนรบ เนติรัตนไพบูลย์ สว.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร ภาค 6 ออกสืบสวนติดตามหลังได้ทราบข้อมูลว่า มีกลุ่มบุคคลแอบลักลอบนำยาเสพติดจากกรุงเทพมหานคร เข้ามาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดหาสายลับ เข้าติดต่อล่อซื้อยาไอซ์ จากกลุ่มนักค้ายาเสพติด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นยาไอซ์ จำนวน 100 กรัม ตกลงกันในราคา 26,000 บาท โดยนักค้ายาเสพติดแจ้งว่า ขอค่าขนส่งยาเสพติดเพิ่มอีกเป็นเงิน 4,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ให้มาเก็บเงินค่าขนส่งที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อนำยาไอซ์มาส่ง วางแผนจับกุม โดยนัดหมายส่งรับยาเสพติดกันที่บริเวณภายในปั้มน้ำมัน แห่งหนึ่ง ใน ต.พลายชุมพล อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

ต่อมาช่วงเย็นของวันที่ 16 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา พบมีรถยนต์เก๋ง แท็กซี่ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทฬ 1836 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดภายในปั้มน้ำมัน จากนั้นคนขับรถแท็กซี่ ได้เดินมาพูดคุยกับสายลับ ที่ร้านกาแฟ ภายในปั้มน้ำมัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเป็น ลูกค้า ภายในร้าน จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าควบคุมตัว ผู้ขับขี่แท็กซี่คันดังกล่าวไว้

จากการตรวจค้นภายในรถยนต์แท็กซี่ พบยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 100 กรัม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 80,000 บาท หากลักลอบไปจำหน่ายให้กับลูกค้า ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของข้างเบาะคนขับ นาย ก ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนได้ประกอบอาชีพ ขับรถแท็กซี่ อยู่ที่กรุงเทพมหานคร แต่หลังเกิดวิกฤตไวรัสโควิค-19 ไม่มีรายได้ และได้รับการติดต่อว่าจ้างจากเพื่อน ให้นำยาไอซ์ไปส่งให้กับลูกค้าที่จังหวัดพิษณุโลก และจะให้ค่าจ้างเป็นเงิน 4,000 บาท จึงนำ ยาไอซ์ มาส่งให้กับลูกค้าที่ จังหวัดพิษณุโลก โดยใช้รถยนต์แท็กซี่ของตน ขับออกมาจากกรุงเทพ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาดังกล่าว โดยขับมาถึงจังหวัดพิษณูโลก ในเวลาประมาณ 09.00 น. และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจจดำเนินคดีกับนาย ก ในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมกับจะขยายผลต่อไป ที่มา - https://www.phitsanulokhotnews.com/2020/05/17/143083